เมื่อวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วยนายทวี ปิยะพัฒนา รองประธานอาวุโส ส.อ.ท. และนายอภิชิต ประสพรัตน์ นายธนารักษ์ พงษ์เภตรา นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล รองประธาน ส.อ.ท. รวมถึงคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท. เข้าร่วมงาน Thank you Party ชูความสำเร็จของงาน FTI Expo 2022 จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอนุชา มีเกียรติชัยกุล ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับและได้รับเกียรติจากนายศักดิ์ชัย คุณานุวัฒน์ชัยเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวแสดงความยินดี ณ ห้องโคม ชั้น 7 โรงแรมมีเลีย จังหวัดเชียงใหม่
นายทวีและนายเกรียงไกร กล่าวขอบคุณคณะจัดงาน FTI Expo 2022 จังหวัดเชียงใหม่ ที่ถือเป็นบุคคลสำคัญในการจัดงาน “FTI EXPO 2022” มหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมอุตสาหกรรมไทยที่ยิ่งใหญ่แห่งปี ภายใต้แนวคิด Shaping the Future Industry for Stronger Thailand ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา
ความสำเร็จของงาน “FTI EXPO 2022” มหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมอุตสาหกรรมไทยในครั้งนี้ เป็นเวทีที่ได้สร้างปรากฏการณ์การรวมพลังครั้งสำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทยและองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคการศึกษา ทั้งด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรม การค้าและการท่องเที่ยว ที่ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยหลังสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ ยังเป็นเวทีที่แสดงศักยภาพผลงานด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าและบริการให้กับภาคอุตสาหกรรม และยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศให้ก้าวเทียบเท่าระดับสากล
การจัดงาน FTI EXPO 2022 ไม่เพียงสร้างกระแสตื่นตัวเรื่อง BCG Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) ไปในวงกว้างแล้ว ยังส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายภายในงานถึง 329 ล้านบาท จากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมออกบูธ 396 บูธ เกิดมูลค่าการลงทุนและการซื้อขายต่อเนื่องหลังงานกว่า 1,237 ล้านบาท เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่กว่า 2,839 ล้านบาท เกิดการจ้างงานระหว่างการจัดงานกว่า 2,000 คน เกิดการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ 363 คู่เจรจา และการสร้างเม็ดเงินที่พร้อมลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท
จากผลตอบรับงานที่ดีเยี่ยมในทุกด้าน สะท้อนให้เห็นศักยภาพของคนไทยและความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสร้างจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ให้กับวงการอุตสาหกรรมไทยก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ ยังแสดงถึงความพร้อมในการรีสตาร์ทประเทศไทย ให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจกลับมาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ประเทศแข็งแกร่งกว่าเดิม
