นายชาติชาย พานิชชีวะ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายนาวา จันทนสุรคน กรรมการบริหาร ส.อ.ท. เป็นผู้แทน ส.อ.ท. ในการเข้าร่วมคณะเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศ นำโดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยผู้แทนระดับสูงของภาคธุรกิจ เดินทางเยือนกรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 6-9 มิถุนายน 2566 เพื่อติดตามความคืบหน้าในความร่วมมือด้านต่างๆ ระหว่างสองประเทศ
สำหรับวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ทางคณะฯ ได้หารือกับ H.E. Mr. Khalid Al-Falih รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบีย และ Mr. Abdulrahman Al-Fageeh, CEO of Saudi Basic Industries Corporation (SABIC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเคมีภัณฑ์รายใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งได้เข้าร่วมการหารือโต๊ะกลม โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ H.E. Mr. Khalid Al-Falih รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบีย เป็นประธานร่วม เพื่อติดตามความคืบหน้าของความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุนในสาขาหลักๆ 6 ด้าน ประกอบด้วย 1.พลังงานทางเลือก 2.อุตสาหกรรมปิโตรเคมิคอล 3.วัสดุก่อสร้างและแพคเกจจิ้ง 4.เกษตรกรรมและอาหาร 5.เกมและอีสปอร์ต และ 6.ท่องเที่ยว การโรงแรม อุตสาหกรรมความงามและการดูแลสุขภาพ
วันที่ 8 มิถุนายน 2566 คณะภาคเอกชนได้เดินทางเยี่ยมชม King Abdulaziz City for Science and Technology (KACST) ซึ่งเป็นศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของซาอุดีอาระเบีย ที่ได้มีการทำการศึกษา อาทิ Carbon Fiber, Industrial 4.0, Semiconductor เป็นต้น และได้หารือกับหน่วยงาน The Federation of Saudi Chambers ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้มีการลงนาม MOU จัดตั้ง Joint Business Council ร่วมกันในปีที่ผ่านมา สำหรับการหารือครั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในการส่งเสริมการลงทุนของทั้งสองประเทศ โดยทั้งสองฝ่ายยินดีที่จะผลักดันการค้า การลงทุนระหว่างกันต่อไป
ทั้งนี้ ในช่วงการเยือน H.E. Mr. Khalid Al-Falih รัฐมนตรีกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบีย จะเห็นได้ว่าในปี 2565 มีการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยมีตัวเลขการค้าการลงทุนเพิ่มขึ้น 40% โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 มีการเติบโตขึ้น 23% โดยซาอุดีอาระเบียยินดีสนับสนุนนักลงทุนไทย รวมถึง SMEs และสตาร์ทอัพ (Startup) หรือธุรกิจโรงแรม เข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของซาอุดีอาระเบีย โดยทางซาอุดีอาระเบียยินดีให้ความช่วยเหลือทั้งในด้านกฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งการสนับสนุนด้านเงินทุน โดยเฉพาะสาขาชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งไทยมีความเชี่ยวชาญ โดยจะช่วยผลักดันให้ซาอุดีอาระเบีย
เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานในระดับโลก ไม่เพียงแต่การลงทุนในซาอุดีอาระเบียเท่านั้น แต่ทางซาอุดีอาระเบีย จะสนับสนุนการเข้าไปลงทุนในไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็ง
ในโอกาสที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ นับเป็นโอกาสในการครบรอบปีแรกของการฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูต โดยในปีที่ผ่านมาการค้าระหว่างทั้งสองประเทศเติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งการเยือนดังกล่าว เป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือ และผลักดันการค้า การลงทุนระหว่างกัน เพื่อให้ทั้งสองประเทศเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตที่สำคัญของโลกในอนาคต