เมื่อวันพุธที่ 13 กันยายน 2566 นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วยผู้แทนคณะทำงาน Climate Change นายอาทิตย์ เวชกิจ ดร. สวนิตย์ บุญญาสุวัฒน์ ศรีเลิศฟ้า นายสมชาย มุ้ยจีน ผู้แทนคณะทำงาน BCG และนายจำรัส สว่างสมุทร ผู้อำนวยการใหญ่ ส.อ.ท. เข้าหารือกับผู้แทนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) และ Ms. Sarah Ellerman ผู้แทนสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) Ms. Sharon Yuan ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา นางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนางจุฬามณี ชาติสุวรรณ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการดำเนินการของไทยในกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโดแปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) ณ ห้อง Pompadour ชั้น 2 โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน กรุงเทพฯ
ระหว่างการประชุม ผู้แทนสหรัฐอเมริกา ได้นำเสนอวัตถุประสงค์ของกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจ IPEF ว่ามีไว้เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนกับประเทศหุ้นส่วนในภูมิภาค รวมถึงสนับสนุนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างศักยภาพร่วมกัน โดยภายใต้ความร่วมมือ IPEF แบ่งออกเป็น 4 เสาหลัก ดังนี้
เสาที่ 1 การค้า (Trade) มีกรอบความร่วมมือในการส่งเสริมการค้าที่มีมาตรฐานและเป็นธรรม การส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ยั่งยืน และครอบคลุม ซึ่งรวมถึงแรงงาน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจดิจิทัล การเกษตร ความโปร่งใสและแนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบที่ดี
เสาที่ 2 ห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) การเสริมสร้างการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานให้มีความโปร่งใส หลากหลาย มั่นคงและยั่งยืน และส่งเสริมการลงทุนในภาคส่วนอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์หลักที่สำคัญ (Critical Sectors and Goods)
เสาที่ 3 เศรษฐกิจสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Clean Economy) การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การกระชับความร่วมมือด้านเทคโนโลยี การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับการบรรลุเป้าหมายของความตกลงปารีส
เสาที่ 4 เศรษฐกิจที่เป็นธรรม (Fair Economy) การมุ่งยกระดับเศรษฐกิจด้วยการป้องกันและต่อต้านการทุจริต การฟอกเงิน การยับยั้งการหลีกเลี่ยงภาษี และเพิ่มความโปร่งใส
นอกจากนี้ ทางภาคเอกชน ยังได้นำเสนอถึงประเด็นที่สนับสนุนให้มีการผลักดันในกรอบความร่วมมือ IPEF อาทิ การสนับสนุนการค้าการลงทุน โดยเน้นไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีโอกาสในการลงทุนของไทย เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างห่วงโซ่อุปทาน การสนับสนุนการพัฒนาตลาดคาร์บอนผ่านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การสนับสนุนการเทียบเคียงระบบมาตรฐานเครื่องมือในการวัด และการส่งเสริมการสร้างมาตรฐานสินค้าร่วมกัน
