ถ้าพูดถึง “Artificial Intelligence (AI)” หรือที่หลาย ๆ คนคุ้นหูกันว่า “ปัญญาประดิษฐ์” คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะทุกวันนี้ มองไปทางไหน ก็เจอแต่ AI เต็มไปหมด
AI เขย่าทุกวงการจริง ๆ ?
คำตอบคือ ใช่ เพราะโลกมาถึงจุดเปลี่ยนและต้องรับมือให้ทัน
ความอัจฉริยะของเทคโนโลยี AI ที่ไม่เพียงเพื่อใช้ในสายการผลิตหรือในโรงงานเท่านั้น ปัจจุบันยังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในวงกว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การแพทย์และสุขภาพ การเกษตรและอาหาร ธุรกรรมการเงิน การสื่อสารโทรคมนาคม การบริการ การขนส่ง การเดินทาง การศึกษา การตลาดและโฆษณา บันเทิง ถ่ายภาพ เป็นต้น
เป็นที่ประจักษ์กันแล้วว่า เทคโนโลยี AI เป็นเครื่องมือที่ทำให้การใช้ชีวิตและการทำงานสะดวกสบายง่ายขึ้นกว่าเดิมอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการยกระดับการทำงานที่เยี่ยมยอดในอีกหลาย ๆ ด้านด้วย เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุน ประหยัดเวลา การสร้างผลกำไรจากธุรกิจ การหาไอเดียต่าง ๆ ทั้งแบบง่ายและซับซ้อน การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล เป็นต้น ซึ่งในปี 2566 นี้ อาจกล่าวได้ว่า AI เป็นดาวรุ่งที่เขย่าและท้าชนทุกวงการจริง ๆ
:
AI ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ อะไรก็เป็นไปได้หมด
กระแสความสำคัญและปริมาณความนิยมของเทคโนโลยี AI มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจุดน่าสนใจอยู่ตรงที่วิวัฒนาการความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ที่ยังไม่ถึงขีดสุด เชื่อมั่นว่ายังต้องวิวัฒนาการกันต่อไป หากสังเกตรอบ ๆ ตัวเราจะพบว่า มีการดึงประโยชน์ของเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อตอบโจทย์โลกยุคใหม่ได้สารพัดสิ่ง
ขยายความจากข้างต้นคือ เทคโนโลยี AI สามารถสร้างภาพศิลปะและภาพวาดเหมือนจริง สร้างเสียงและพูดแทนคน สร้างและแก้ไขวิดีโอ ผลิตเนื้อหา (Content) ให้โดนใจลูกค้า ตอบคำถามภาษามนุษย์ (Chatbot) โต้ตอบอีเมล วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เป็นต้น มีตัวอย่างผลงานที่นำเทคโนโลยี AI ไปพัฒนาใช้แล้ว เช่น
– นักบินหุ่นยนต์ขับเครื่องบินของเกาหลีใต้
– Otter.ai เครื่องช่วยบันทึกและถอดเสียงการประชุม
– Bard แชตบอตที่พัฒนาโดย Google เพื่อแข่งกับ ChatGPT จาก OpenAI
– Claude แชตบอตรุ่นใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท Anthropic ที่อ้างว่าจะมาฆ่า ChatGPT
– Tengai หุ่นยนต์สัมภาษณ์งานตัวแรกของโลก
– ปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์ด้วย Face ID
– ตรวจจับและคัดกรองโรคมะเร็ง
– อากาศยานไร้คนขับ
– โดรนวัดความหวานไร่อ้อย
– หุ่นยนต์ AI อ่านข่าวเหมือนมนุษย์
– ลิ้นอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเลียนแบบการรับรสของมนุษย์ได้
สำหรับตัวอย่างเทคโนโลยี AI ที่เตรียมจะเปลี่ยนแปลงโลกในอนาคตอันใกล้นี้ เช่น ถอดรหัสภาพจากการทำงานของสมองแบบเรียลไทม์ รถยนต์อัจฉริยะไร้คนขับ รถแทรกเตอร์ไร้คนขับ Grok แชตบอตใหม่ของ Elon Musk ที่เตรียมท้าชน ChatGPT เป็นต้น
จากตัวอย่างข้างต้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ความอัจฉริยะของเทคโนโลยี AI ที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ จากที่เป็นไปไม่ได้ให้มีความเป็นไปได้ในอนาคตนั้นก็ยังมีอีก และจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อผู้คนในแต่ละสาขาอาชีพ/วงการมากขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องจับตาและอัปเดตข่าวสารกันต่อไป
:
พัฒนาบุคลากรด้าน AI ต้องพร้อมก่อนไทยจะเป็นฮับ AI
Oxford Insights ได้เปิดเผยข้อมูลดัชนีความพร้อมด้านปัญญาประดิษฐ์ของรัฐบาล ปี 2565 (Government AI Readiness Index 2022) พบว่า ประเทศไทยจัดอยู่อันดับที่ 31 จาก 181 ประเทศ (ไทยเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ อยู่อันดับที่ 2 และมาเลเซีย อยู่อันดับที่ 29) จากดัชนีฯ นี้สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศไทยต้องก้าวให้ทันเทคโนโลยีและเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขีดความสามารถให้ทุกภาคส่วนในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายแห่งอนาคต (New S-Curve) และรองรับการเติบโตของภาคธุรกิจอุตสาหกรรม จึงมีความสำคัญยิ่งยวด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผลิตและพัฒนาบุคลากรด้าน AI ที่ต้องอัปสกิล (Upskill) และรีสกิล (Reskill) ตลอดจนการแก้ปัญหาและรับมือการขาดแคลนบุคลากรด้าน AI ที่คาดการณ์ว่าจะลากยาวไปถึงปี 2569
:
ความน่ากลัวที่แอบแฝง
ความก้าวหน้าและความเก่งกาจขึ้นของเทคโนโลยี AI เปรียบเสมือนเหรียญสองด้าน องค์กรและธุรกิจจะได้ประโยชน์อย่างมากมายมหาศาลเมื่อนำไปใช้ให้ถูกทางและเหมาะสม ในขณะที่อีกด้านนั้นอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์และสังคมได้เช่นกัน หากไม่มีการควบคุมและกำกับดูแลอย่างรอบคอบและรัดกุมก็อาจสายเกินไปที่จะแก้ได้
———-
อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์เทรนด์เทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญกับองค์กรและธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งยังคงหนีไม่พ้นเรื่องของ AI ดังนั้น ทักษะด้าน AI จึงเป็นทักษะจำเป็นในโลกยุคดิจิทัล
โดยสรุปแล้วเทคโนโลยี AI ไม่ได้เกิดขึ้นมาเองหรือถูกเสกให้เกิดขึ้น แต่ทั้งหมดล้วนเกิดจากปัญญาของมนุษย์ที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาจนมีความสามารถล้ำหน้าเกินกว่ามนุษย์ไปแล้ว แต่สุดท้ายแล้วการตัดสินใจต่างๆ ก็คือ “มนุษย์” อยู่นั่นเอง
ปัจจุบันการเรียนรู้เทคโนโลยี AI ไม่ใช่เรื่องยากหรือมีข้อจำกัดอีกต่อไป จงเรียนรู้และศึกษาเพื่อให้อยู่รอดได้ในโลกยุคใหม่ ทั้งนี้ หากต้องการขอรับคำแนะนำหลักสูตรเพื่อยกระดับทักษะ ทั้ง Upskill และ Reskill สามารถติดต่อได้ที่ FTI Academy สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 1453 กด 12
