No logos available
25 Jul 2025
ส.อ.ท. เปิดตัว “กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ” เดินหน้าพัฒนา “Aerospace Valley” ต้นแบบเศรษฐกิจมูลค่าสูงวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ” หรือ
Aerospace Industry Club กลุ่มอุตสาหกรรมลำดับที่ 47 ภายใต้ ส.อ.ท. พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการพัฒนา
พื้นที่เศรษฐกิจความสามารถพิเศษต้นแบบ “Aerospace Valley” เพื่อผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมการบินและอวกาศในภูมิภาค
ณ ห้อง Ballroom 2 โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ
ภายในงาน ได้รับเกียรติจากนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวถึงอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ โอกาสใหม่ของไทย สู่เศรษฐกิจ
มูลค่าสูง และดร.อนุกูล แต้มประเสริฐ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ส.อ.ท. กล่าวถึงที่มา และความสำคัญของอุตสาหกรรม
การบินและอวกาศ
กลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ นับเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมลำดับที่ 47 ภายใต้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็น
ศูนย์กลางการให้ความรู้ทางด้านต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เช่น รูปแบบอากาศยาน ความต้องการใช้ประเภทต่างๆ เทคโนโลยีการเดินอากาศ
และการควบคุมนำทางการพัฒนา Advanced Air Mobility (AAM) และการจัดการ Airspace Integration เพื่อให้เกิดการใช้งานห้วง
อากาศที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับการเดินอากาศสมัยใหม่
ขณะนี้ ประเทศไทยได้เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดให้บริการด้านนี้อย่างเป็นรูปธรรมในอีก 3–5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการพลิกโฉมการใช้
ห้วงอากาศของไทยในรูปแบบใหม่ ด้วยการผสานนวัตกรรมการบินอัจฉริยะเข้ากับการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจการบิน (Aeropolis)สอดคล้อง
กับรูปแบบเมืองและผังเมืองสมัยใหม่ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงระบบการเดินทางทางอากาศ บก ราง และน้ำได้อย่างไร้รอยต่อ
พร้อมกันนี้ ยังผลักดันให้เกิดกลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งแต่การออกแบบ ผลิต สื่อสาร โทรคมนาคม ดาวเทียม ระบบสารสนเทศ
ดิจิทัล AI Big Data รวมถึงการใช้ Open Source Software เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุม
ทุกพื้นที่ และมีต้นทุนที่คุ้มค่า
การพัฒนาในครั้งนี้ ยังมุ่งเชื่อมโยงผู้ประกอบการไปสู่ Cluster อุตสาหกรรมที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน พัฒนา Use Cases ที่หลากหลาย
โดยใช้กรณีศึกษาจากต่างประเทศเป็นต้นแบบ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง (Disruption) ในอนาคต อีกทั้งยังให้ความสำคัญ
กับการร่วมพัฒนา Talent ทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ รองรับ Business Model และ Startup ใหม่ๆ ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจและ
สังคมไทยอย่างยั่งยืน
พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) กล่าวว่า สำนักงานการบินพลเรือน
แห่งประเทศไทยมีวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำด้านการกำกับดูแลความปลอดภัยและมาตรฐานการบินพลเรือนในระดับสากล เพื่อขับเคลื่อน
อุตสาหกรรมการบินของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ พร้อมเชื่อมโยงประเทศไทยสู่ประชาคมโลกอย่างมั่นคงและปลอดภัย
ด้วยพันธกิจหลักในการกำกับดูแลและส่งเสริมการบินพลเรือนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและความมั่น
คงของการบิน รวมถึงพัฒนาระบบการบินพลเรือนให้ทันสมัยและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ
และประชาชน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ถือเป็นโอกาสใหม่
ที่สำคัญของประเทศไทยในการก้าวสู่เศรษฐกิจมูลค่าสูง เนื่องจากอุตสาหกรรมการบินเป็นหนึ่งในกลไกหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกโดย
คาดว่าตลาดอุตสาหกรรมการบินและอวกาศทั่วโลกจะสูงถึง 1.08 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2571 โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึง
ประเทศไทย มีแนวโน้มการเติบโตที่รวดเร็วที่สุด และคาดว่าจะกลายเป็นตลาดการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2583 ส่งผลให้ความ
ต้องการด้านการซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) และบุคลากรด้านการบินเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
เพื่อรองรับโอกาสนี้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงได้จัดตั้งกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ให้สอดคล้องตามนโยบาย "4 GO"
(GO Digital & AI, GO Innovation, GO Global, GO Green) โดย GO Digital & AI นำปัญญาประดิษฐ์และระบบดิจิทัลมาใช้ในการ
ออกแบบควบคุมการจราจรทางอากาศ และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ GO Innovation ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการบิน
ขั้นสูงGO Global เชื่อมโยงเครือข่ายไปสู่ระดับสากล และ GO Green พัฒนาและใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ที่ลดการปล่อย
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 80%
ทั้งนี้ ความร่วมมือภายใต้บันทึกข้อตกลงโครงการ "Aerospace Valley" ถือเป็นต้นแบบของการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจเฉพาะทางด้าน
เทคโนโลยีการบินและอวกาศ เพื่อยกระดับศักยภาพของไทยให้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้าน Aviation & Aerospace Hub ในภูมิภาคและ
เวทีโลกได้อย่างมั่นคง
“โอกาสนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรม S – Curve และ New S-Curve ที่เน้นการสร้าง
มูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ควบคู่ไปกับความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน” นายเกรียงไกร กล่าวทิ้งท้าย
----------------------
เผยแพร่โดยฝ่ายสื่อสารองค์กร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทร. 02-345-1051