ส.อ.ท. เผยยอดผลิตรถยนต์เดือน ส.ค. 150,657 คัน ปรับตัวลดลง 12.27 %

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์  รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนสิงหาคม 2566 ดังต่อไปนี้

การผลิต

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนสิงหาคม 2566 มีทั้งสิ้น 150,657 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 12.27 เพราะผลิตรถกระบะเพื่อขายในประเทศที่ลดลงจากปีที่่แล้วเดือนสิงหาคมถึงร้อยละ 41.65 ตามยอดขายในประเทศที่ลดลงตั้งแต่ต้นปี และปีที่แล้วเดือนสิงหาคมเริ่มได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นมาก จึงผลิตได้มาก ฐานปีที่แล้วจึงสูง แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 0.63 

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,221,878 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 3.13

รถยนต์นั่ง เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตได้ 51,299 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 4.24 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน  37,656 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 20.03

• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 2 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 100

• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 651 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 25

• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 12,990 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 131.18

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 มีจำนวน 422,928 คัน เท่ากับร้อยละ 34.61 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 18.91  โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 330,324 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 10.83

• รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 148 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 100

• รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 7,021 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 72.76

• รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 85,435 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 59.54

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนสิงหาคม 2566 ผลิตได้ 12 คันเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100 รวมเดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตได้ 94 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 4,600

รถยนต์บรรทุก เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 99,346 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 15.92 และตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 798,856 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 3.65

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 95,538 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 16.29 และตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 775,662 คัน เท่ากับร้อยละ 63.48 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 3.27 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 139,649 คัน   ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 32.26

• รถกระบะดับเบิลแค็บ 508,562 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 1.46

• รถกระบะ PPV 127,451 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 34.94

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตได้ 3,808 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 5.51 รวมเดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตได้ 23,194 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 14.97

ผลิตเพื่อส่งออก 

เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตได้ 88,661 คัน เท่ากับร้อยละ 58.85 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 1.07 ส่วนเดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 705,868 คัน เท่ากับร้อยละ 57.77 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 10.26

รถยนต์นั่ง เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 21,061 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 1.95 และตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 192,057 คัน เท่ากับร้อยละ 45.41 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 22.72

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนสิงหาคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 67,600 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 2.04 และตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 513,811 คัน เท่ากับร้อยละ 66.24 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 6.23 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 52,726 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-สิงหาคม 2565 ร้อยละ 8.45

• รถกระบะดับเบิลแค็บ 391,667 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-สิงหาคม 2565 ร้อยละ 5.43

• รถกระบะ PPV 69,418 คัน    เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-สิงหาคม 2565 ร้อยละ 27.13

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 

เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตได้ 61,996 คัน เท่ากับร้อยละ 41.15 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 26.20 และเดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตได้ 516,010 คัน เท่ากับร้อยละ 42.23 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 5.25

รถยนต์นั่ง เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 30,238 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 5.78 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ผลิตได้ 230,871 คัน เท่ากับร้อยละ 54.59 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.92

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนสิงหาคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 27,938 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 41.65 และตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 261,851 คัน เท่ากับร้อยละ 33.76 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 17.70 ซึ่งแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 86,923 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-สิงหาคม 2565 ร้อยละ 41.48

• รถกระบะดับเบิลแค็บ 116,895 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-สิงหาคม 2565 ร้อยละ 9.92

• รถกระบะ PPV 58,033 คัน  เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-สิงหาคม 2565 ร้อยละ 45.65

รถจักรยานยนต์ 

เดือนสิงหาคม 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 204,368 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 16.61 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 171,270 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 9.72 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 33,098 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 40.21

ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,790,224 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 5.20 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,468,997 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 15.01 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 321,227 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 24.31

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 60,234 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 3.62 จากยอดขายรถกระบะที่ลดลงถึงร้อยละ 36.3 เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 11.69  แบ่งตามประเภทเชื้อเพลิง ดังต่อไปนี้

• รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) 47,683 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 23.65

• รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 6,063 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 767.38

• รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 131 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 49.03

• รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 6,357 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 32.47%

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 160,123 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ร้อยละ 6.20 และลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 6.82 โดยแบ่งเป็น

• รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 160,123 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 6.82

ตั้งแต่เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 รถยนต์มียอดขาย 524,784 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 6.21 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) 429,136 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 16.46

• รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 41,844 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 837.79

• รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,585 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 39.54

• รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 52,219 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 30.31

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,304,883 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 7.64 โดยแบ่งเป็น

• รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 1,303,845 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 7.63

• รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 818 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 10.80

• รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) 220 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 100

การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป 

เดือนสิงหาคม 2566 ส่งออกได้ 87,555 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้วร้อยละ 18.97 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 19.41 จากการส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ มูลค่าการส่งออก 60,214.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 21.99

• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,597.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 3.88

• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 16,326.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 0.98

• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,179.78 ล้านบาท ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 13.13

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนสิงหาคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 82,318.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 15.13

เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 724,423 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 19.53 มีมูลค่าการส่งออก 456,983.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 24.18 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 

• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 24,813.75 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 13.38

• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 120,468.77 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 11.77

• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 15,640.29 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 14.48

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 617,906.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 12.04

รถจักรยานยนต์

เดือนสิงหาคม 2566 มีจำนวนส่งออก 48,758 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2566 ร้อยละ 24.10 และลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 45.01 โดยมีมูลค่า 4,540.62 ล้านบาท ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 27.69

• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 228.73 ล้านบาท ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 22.49

• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 200.94 ล้านบาท ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 12.17

เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 540,630 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 19.25 มีมูลค่า 46,093.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 0.57

• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,052.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 24.30

• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,455.66 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 12.35

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 49,601.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 0.93

เดือนสิงหาคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 87,289.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.47

เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 667,507.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.14

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนสิงหาคม 2566 

เดือนสิงหาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 9,076 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 293.92 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 6,619 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 458.57

o รถยนต์นั่งจำนวน 6,594 คัน

o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน     25   คัน

• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 27 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 575

• รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 24 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 60

o รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน    22 คัน

o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน      2 คัน

• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 2,378 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 127.13

o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 2,378 คัน

• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 9 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ  82.69

• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 19 คัน ซึ่งยังไม่มีการจดทะเบียนในช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว

เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน      59,025 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 433.05 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 43,348 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 804.59

o รถยนต์นั่งจำนวน 43,168 คัน

o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน     169 คัน

o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน        4 คัน

o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน        7 คัน

• รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 91 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 506.67

• รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 236 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 55.26

o รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน    222 คัน

o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน      14 คัน

• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 13,991 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 132.80

o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 13,939 คัน

o รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน       52 คัน

• รถโดยสารมีทั้งสิ้น 1,135 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 1,023.76

• รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 224 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 7,366.67

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนสิงหาคม 2566 

เดือนสิงหาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,106 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 21.93 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,039 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 22.29

o รถยนต์นั่งจำนวน 7,032 คัน

o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน       4 คัน

o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน             3 คัน

• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 67 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 6.94

o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน     67 คัน

เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  59,196 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 37.37 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 58,759 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 37.35

o รถยนต์นั่งจำนวน 58,698 คัน

o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน      14  คัน

o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน      15  คัน

o รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน      32  คัน

• รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 437 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 39.17

o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน     437 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนสิงหาคม 2566 

เดือนสิงหาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 1,269 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 28.57 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 1,269 คัน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2565 ร้อยละ 28.57

o รถยนต์นั่งจำนวน   1,269 คัน

เดือนมกราคม – สิงหาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  8,518 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคมปีที่แล้วร้อยละ 10.49 โดยแบ่งเป็น

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 8,518 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 ร้อยละ 10.49

o รถยนต์นั่งจำนวน    8,512 คัน

o รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน          6 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566

ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 90,906 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 306.30 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 57,043 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 542.59

o รถยนต์นั่งมีจำนวน  56,587 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 547

o รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 328 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 162.40

o รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 20 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 233.33

o รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 15 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน

o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 93 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน

• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 151 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 169.64

• รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 713 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 70.98

o รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 76 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 43.40

o รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 637 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 75

• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 30,401 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 140

o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 30,276 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 140.38

o รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 122 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 71.83

• อื่นๆ 

o รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,347 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 596.44

o รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 251 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 1,155

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566

ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 318,125 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 33.05 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

• รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 309,012 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 34.23

o รถยนต์นั่งมีจำนวน 308,287 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 34.27

o รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 479 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 3.82ฟ

o รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 42 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 75

o รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 113 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 46.75

o รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 

o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 88 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน

• รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 

• รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,110 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 2.38

o รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,110 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 2.38

• อื่นๆ 

o รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 100

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566

ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 50,847 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 30.98 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

• รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 50,847 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 30.98

o รถยนต์นั่งมีจำนวน 50,783 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 31.03

o รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 41 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 2.50

o รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 16 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 23.81

o รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 50

o รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 4 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ไม่มีการจดทะเบียน

**———————————————————————————————-*