เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม 2567 นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เข้าร่วมงานประชุม IMF’s World Economic Outlook Presentation จัดโดย IMF Capacity Development Office in Thailand ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่ประชุม IMF ได้มีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อที่กำลังลดลง ส่งผลทำให้ GDP ทั่วโลกกลับมาขยายตัวต่อเนื่อง แต่ GDP ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ขณะที่กลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา GDP ยังคงชะลอตัวตามแรงกดดันจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น เศรษฐกิจจีนที่ถดถอย และประเด็นผลิตภาพการผลิตรวม (Total Factor Productivity: TFP) ที่ปรับตัวลดลงจากค่าเฉลี่ยปี 2000-2019 โดย IMF ได้นำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและยกระดับ GDP รวมถึงสะท้อนภาพปัจจัยต่างๆ ที่ภาครัฐไทยควรให้ความสำคัญในการเปลี่ยนผ่านนโยบายด้านการเงินและการคลังที่เหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจ
นายมนตรี ได้ร่วมนำเสนอความเห็นว่า ภาคการท่องเที่ยวมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา แต่ในภาคการผลิตยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่หดตัวต่อเนื่องเข้าสู่เดือนที่ 18 รวมทั้ง การส่งออกที่ส่งสัญญาณชะลอตัวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หดตัว -10.9%YoY ทำให้ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการส่งออกให้มากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตลาดไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนที่มีอัตราการเติบโต 7 ถึง 10% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันตลาดอาเซียนเป็นที่น่าจับตามองอย่างมากจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงคู่ค้าอันดับ 1 ของอาเซียนอย่างจีนด้วย นอกจากนี้ ยังได้สะท้อนภาพปัญหาของผู้ประกอบการ SME ของไทย ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19