วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2567 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนมีนาคม 2567 ผลิตรถยนต์ 138,331 คัน ลดลงร้อยละ 23.08 ขาย 56,099 คัน ลดลงร้อยละ 29.83 ส่งออก 95,089 คัน ลดลงร้อยละ 3.35 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 1,226 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2,965 ขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 4,615 คัน ลดลงร้อยละ 28.38

การผลิต

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนมีนาคม 2567 มีทั้งสิ้น 138,331 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 23.08 ลดลงจากการผลิตขายในประเทศลดลงร้อยละ 41.01 จากการผลิตรถกระบะและรถยนต์นั่งที่ลดลงตามยอดขายในประเทศที่ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน รวมไปถึงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังไม่มาก เพราะโรงงานผลิตรถยนต์บางบริษัทยังไม่พร้อม ซึ่งคาดว่าการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้นในไตรมาสที่ 3 แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ร้อยละ 3.47

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 414,123 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 18.45

รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2567 ผลิตได้ 52,099 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 18.39 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 31,684 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 39
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 1,226 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 2,965
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 606 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 29
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 18,583 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 84

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 มีจำนวน 155,049 คัน เท่ากับร้อยละ 37.44 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 13.62 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 93,923  คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 55
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 2,647 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 2,17
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 1,548 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 43
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 56,931 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 23

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนมีนาคม 2567 ไม่มีการผลิต รวมเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 68.75

รถยนต์บรรทุก เดือนมีนาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 86,232 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 25.66และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 259,064 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 21.08

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2567 ผลิตได้ทั้งหมด 83,210 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 26.34 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 250,250 คัน เท่ากับร้อยละ 60.43 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 21.85 โดยแบ่งเป็น

 

  • รถกระบะบรรทุก 46,234 คัน         ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 78
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 161,029 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 13
  • รถกระบะ PPV 42,987 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 89

 

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนมีนาคม 2567 ผลิตได้ 3,022 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 0.26 รวมเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตได้  8,814 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 9.94

 

ผลิตเพื่อส่งออก

เดือนมีนาคม 2567 ผลิตได้ 91,808 คัน เท่ากับร้อยละ 66.37 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 9.09 ส่วนเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 273,680 คัน เท่ากับร้อยละ 66.09 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2566 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 5.02

รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2567 ผลิตเพื่อการส่งออก 28,719 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 10.97 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 81,805 คัน เท่ากับร้อยละ 52.76 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 4.06

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 63,089 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 16 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 191,875 คัน เท่ากับร้อยละ 76.67 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 8.42 โดยแบ่งเป็น

 

  • รถกระบะบรรทุก 17,539 คัน         ลดลงจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 ร้อยละ 74
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 138,206 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 ร้อยละ 87
  • รถกระบะ PPV  36,130 คัน            เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 ร้อยละ 72

 

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

เดือนมีนาคม 2567 ผลิตได้ 46,523 คัน เท่ากับร้อยละ 33.63 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 41.01 และเดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตได้ 140,443 คัน เท่ากับร้อยละ 33.91 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 36.06

รถยนต์นั่ง เดือนมีนาคม 2567 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 23,380 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 38.41 แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ผลิตได้ 73,244 คัน เท่ากับร้อยละ 47.24 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ลดลงร้อยละ 27.40

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนมีนาคม 2567 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 20,121 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 46.86 และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ผลิตได้ทั้งสิ้น 58,375 คัน เท่ากับร้อยละ 23.33 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 47.28 ซึ่งแบ่งเป็น

 

  • รถกระบะบรรทุก 28,695 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 ร้อยละ 15
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 22,823 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 ร้อยละ 71
  • รถกระบะ PPV 6,857 คัน              ลดลงจากเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 ร้อยละ 16

 

รถจักรยานยนต์

เดือนมีนาคม 2567 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 219,434 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 4.05 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 179,806 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 9.42 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 39,628 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 31.26

ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 660,741 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 7.78 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 533,398 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 8.14 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 127,343 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 6.22

 

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนมีนาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 56,099 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ร้อยละ 6.16 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 29.83 ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินจากหนี้ครัวเรือนที่สูงมากและเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เพราะความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ล่าช้าไปหลายเดือน ทำให้การใช้จ่าย การลงทุน และการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชะลอตัวไปด้วย ซึ่งคาดว่าครึ่งปีหลังยอดขายรถยนต์จะดีขึ้นจากการใช้จ่าย การลงทุนและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลร่วมกับการลงทุนของเอกชนและการท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นมากกว่า 33 ล้านคน

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 30,894 คัน เท่ากับร้อยละ 55.07 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 22.70

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 13,390 คัน เท่ากับร้อยละ 87 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 48.36
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 4,615 คัน เท่ากับร้อยละ 23 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 28.38
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 201 คัน เท่ากับร้อยละ 36 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 8.93
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 12,688 คัน เท่ากับร้อยละ62 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 70.24

รถกระบะมีจำนวน 16,212 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 45.27 รถ PPV มีจำนวน 3,436 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 46.68 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 1,582 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 38.87 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 3,975 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 200.45

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 149,938 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ร้อยละ 4.37 แต่ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 18.72

 

ตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 รถยนต์มียอดขาย 163,756 คัน ลดลงจากปี 2566 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 24.56 แยกเป็น

รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ มีจำนวน 96,794 คันเท่ากับร้อยละ 59.11 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 8.23

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์สันดาปภายใน (ICE) 41,058 คัน เท่ากับร้อยละ07 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 41.44
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้า (BEV) 19,131 คัน เท่ากับร้อยละ68 ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 43.63
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 563 คัน เท่ากับร้อยละ 34 ของยอดขายทั้งหมด ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 22.24
  • รถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ไฟฟ้าผสม (HEV) 36,042 คัน เท่ากับร้อยละ01 ของยอดขายรถยนต์นั่งและรถยนต์นั่งตรวจการณ์ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 69.08

รถกระบะมีจำนวน 46,611 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 44.01 รถ PPV มีจำนวน 9,814 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 46.16 รถบรรทุก 5 – 10 ตัน มีจำนวน 4,597 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้วร้อยละ 26.07 และรถประเภทอื่นๆ มีจำนวน 5,940 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนช่วงกันในปีที่แล้ว 51.80

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 447,604 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 11.64

 

การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป

เดือนมีนาคม 2567 ส่งออกได้ 95,089 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 7.18 และลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 3.35 แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 90,201 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 7.76 ส่งออกรถยนต์ HEV 4,888 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 728.47 แต่ส่งออกยังคงแข็งแกร่งตามยอดขายของประเทศคู่ค้าที่ยังเติบโต เช่น ประเทศออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร เป็นต้น อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆอย่างใกล้ชิดเพราะอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ มูลค่าการส่งออก 67,926.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 12

  • เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,401.43 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 79
  • ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 14,534.36 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 21
  • อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,102.11 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 14

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมีนาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 86,963.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 3.46

 

เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 270,525 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 1.16 แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 253,608 คัน ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 6.62 ส่งออกรถยนต์ HEV 16,917 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 698.35 มูลค่าการส่งออก 189,154.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 12.51 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 6,863.27 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 27
  • ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 46,269.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 36
  • อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 6,320.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 01

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 248,608.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 9.01

 

รถจักรยานยนต์

เดือนมีนาคม 2567 มีจำนวนส่งออก 86,239 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ร้อยละ 1.89 และเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 13.41 โดยมีมูลค่า 7,203.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 9.14

 

  • ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น70 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 30.78
  • อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 73 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 22.64

 

         รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนมีนาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 7,575.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 6.53

 

เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 253,728 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 5.19 มีมูลค่า 19,704.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 1.07

  • ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 69 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 18.23
  • อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 81 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 ร้อยละ 12.99

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 20,858.18 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 0.05

 

เดือนมีนาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 94,539.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ3.70

เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 269,466.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 8.25

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนมีนาคม 2567

เดือนมีนาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 7,436 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 15.59 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 4,983 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 91
    • รถยนต์นั่งจำนวน 4,722  คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน  247   คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน      1   คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน     13   คัน
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 21 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 425
  • รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 3 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 32
    • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน      3   คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 2,366 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 55
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 2,366  คัน
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 7 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 20
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น56 58 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 59

 

เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน      29,714 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 41.15 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 22,186 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 70
    • รถยนต์นั่งจำนวน 21,574 คัน               
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน     583 คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน        3 คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน      23  คัน
    • รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน        3 คัน
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 148 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 86
  • รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 7 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 22
    • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน      7   คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 7,206 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 58
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน   7,204 คัน
    • รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน        2 คัน
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 46 คัน ซึ่งลดลงเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ46
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 121 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 175

 

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนมีนาคม 2567

เดือนมีนาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 11,980 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 35.70 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 11,941 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 22
    • รถยนต์นั่งจำนวน          11,929  คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน       คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน       2 คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน                 5 คัน
    • รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน       3  คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 39 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 10
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน      39 คัน

เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  38,114 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 55.97 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 38,026 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 78
    • รถยนต์นั่งจำนวน 37,984 คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน        6  คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน        8  คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน       25 คัน
    • รถยนต์บริการให้เช่าจำนวน        3 คัน

 

  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 88 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ65
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน     88   คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนมีนาคม 2567

เดือนมีนาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 876 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 25.64 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 876 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2566 ร้อยละ 64
    • รถยนต์นั่งจำนวน     874 คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน        2 คัน

เดือนมกราคม – มีนาคม 2567 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  2,710 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคมปีที่แล้วร้อยละ 20.01 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 2,710 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 ร้อยละ 01
    • รถยนต์นั่งจำนวน             2,708 คัน     
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน        2 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 161,352 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 203.94 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 111,841 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 51
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 110,306 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 97
  • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 1,164 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 78
  • รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 59 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 36
  • รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 81 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 1,250
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 231 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566ร้อยละ35
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 430 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 15
  • รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 899 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 41
  • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 86 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 36
  • รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 813 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 65
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 45,291 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 46
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 45,157 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 51
  • รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 134 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 73
  • อื่นๆ
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,466 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 35
  • รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 425 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 14

 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 381,400 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 34.35 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 372,274 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 48
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 371,397 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 48
  • รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 482 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 84
  • รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 60 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ55
  • รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 178 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ42
  • รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 5 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 67
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 152 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 22
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,123 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 30
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,123 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 30
  • อื่นๆ
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566

 

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 56,644 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 23.78 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 56,644 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 78
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 55,713 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 10
  • รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 41 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 50
  • รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 23 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 29
  • รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2566
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 5 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2566 ร้อยละ 400

 

**———————————————————————————————-**