ตลาดแรงงานถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของภาคอุตสาหกรรม และเป็นเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจถึงแนวโน้มภาพรวมของแต่ละอุตสาหกรรมว่าจะเติบโตไปในทิศทางใด ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วตลาดแรงงานจะต้องมีความสมดุลทั้งความต้องการแรงงานของนายจ้างและจำนวนแรงงานของลูกจ้าง เพื่อพร้อมรองรับการพัฒนาและขยายตัวของธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังโรคระบาดโควิด-19 ที่หลายอุตสาหกรรมได้กลับมาดำเนินการตามปกติ ส่งผลให้มีความต้องการแรงงานทักษะที่มีประสิทธิภาพเพิ่มตามลำดับ เพื่อรองรับธุรกิจในยุคใหม่ แต่ในทางกลับกันบัณฑิตจบใหม่ในปัจจุบัน ยังประสบปัญหาว่างงานอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยทักษะยังไม่ตอบสนองต่อตลาดแรงงานของผู้ประกอบการ
:
FTI Academy ภายใต้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมความรู้ในการฝึกอบรม เพื่อยกระดับทักษะบุคลากรของภาคอุตสาหกรรม ทั้งด้าน New Skills และด้าน Upskill & Reskill ซึ่งมุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ได้อย่างสะดวก ทันต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ได้จัดสำรวจและศึกษาความต้องการของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อกำหนดความต้องการในการผลิตบัณฑิตศึกษา (New Skills) ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน รวมถึงเพื่อใช้ในการวางแผนผลิตบุคลากรและป้องกันการผลิตบุคลากรเกินความต้องการ โดยในบทความนี้รวบรวมได้ 4 อุตสาหกรรม ประกอบด้วยอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง อาหารและเครื่องดื่ม ดิจิทัล รวมทั้งไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก ส.อ.ท. ร่วมตอบแบบสอบถาม โดยสรุปพอสังเขป ดังนี้
1. อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง
ปัญหาแรงงานและทักษะ
- ขาดแคลนแรงงานทักษะสูงในสายงาน
- ขาดการบูรณาการองค์ความรู้ข้ามสายงานระหว่างสถาปนิก วิศวกร และช่างก่อสร้าง
- ใช้เทคโนโลยี เช่น การสร้างแบบจำลองข้อมูลอาคาร หรือ Building Information Modeling (BIM) ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ทักษะที่จำเป็น
- การเรียนรู้ข้ามสายงาน ความรู้ในระดับมาตรฐานที่สำคัญของวงการก่อสร้าง
- การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
- ความรู้ด้านการออกแบบ (Design) วิศวกรรมและสถาปนิกแบบองค์รวม
- การใช้เครื่องมือดิจิทัลและเทคโนโลยีในการก่อสร้าง
รูปแบบการพัฒนา
- องค์ความรู้ที่ต้องผลักดัน ได้แก่ Human Scale กับการออกแบบ, Modular Construction, Building Information Management (BIM), Design for Manufacturing and Assembly (DfMA)
- แลกเปลี่ยนความรู้หรือวิธีการ (Know-how) ที่ช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนในการก่อสร้าง
- บูรณาการข้ามศาสตร์ เชื่อมต่อองค์ความรู้แบบองค์รวม
- การใช้เครื่องมือดิจิทัล (Digital Tools) เป็นแพลตฟอร์มเพื่อสร้างมาตรฐานเดียวกัน และทำงานร่วมกัน
ข้อเสนอ
- ภาคเอกชนและภาคการศึกษาร่วมกันออกแบบหลักสูตรให้ทันสมัย และใช้ได้จริง
- ภาครัฐสนับสนุนความร่วมมือของทุกภาคส่วนแบบเชิงรุก
- ปรับโครงสร้างและนโยบายให้เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรที่รวดเร็ว
:
2. อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
ปัญหาแรงงานและทักษะ
- ขาดแคลนแรงงานในระดับ ปวช. ปวส. และช่างเทคนิค
- ช่างระดับสูงขาดทักษะด้านภาษา และเทคโนโลยีสมัยใหม่
- ขาดทักษะการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain)
- บริษัทต้องใช้เวลาในการฝึกแรงงานจบใหม่ ประมาณ 1-2 ปี
- ขาดแคลนนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัย
ทักษะที่จำเป็น
- ภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีสมัยใหม่
- การสื่อสารในสายงาน สามารถถ่ายทอดได้ ถูกต้อง และรวดเร็ว
- การออกแบบและพัฒนาระบบอัตโนมัติ (System Integrator)
- Mechatronic & Robotic, Automation
- Digital Technology
- Biotechnology
- Computer Engineering
- นักวิจัยเพื่อพัฒนาสินค้าสำหรับอนาคต
รูปแบบการพัฒนา
- Upskill & Reskill ภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีให้กับพนักงานอาวุโส
- ให้พนักงานใหม่และพนักงานอาวุโสได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ (Reverse Mentorship)
- ออกแบบหลักสูตรที่มีเนื้อหาเข้มข้น (Intensive) เช่น ใช้เวลาเรียน 20 สัปดาห์ และปฏิบัติจริงที่บริษัทระยะยาว
:
3. อุตสาหกรรมดิจิทัล
ปัญหาแรงงานและทักษะ
- ขาดแคลนผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการ (Core Developer) ในภาคอุตสาหกรรม
- ขาดแคลนแหล่งเงินทุนสนับสนุนในการพัฒนาบุคลากรร่วมกัน
- ปัญหาการคัดกรอง และการสื่อสารให้บุคลากรดิจิทัลมาทำงานในอุตสาหกรรม
ทักษะที่จำเป็น
- ทักษะการเขียน (Programming)
- ความเข้าใจกระบวนการทำงานของอุตสาหกรรม
รูปแบบการพัฒนา
- พัฒนาหลักสูตรดิจิทัลร่วมกับภาคการศึกษา (Digital Integrated Industry)
- อุตสาหกรรมเข้าไปเลือกคนที่ใช่เพื่อนำคนเข้าระบบให้ไว และฝึกพัฒนาทักษะที่จำเป็นตั้งแต่เนิ่น ๆ (Early Harvest)
- การฝึกกับโจทย์จริงในอุตสาหกรรม
- ระยะเวลา 5 ปี อยู่ในภาคการศึกษา 1.5 ปี อยู่ในภาคอุตสาหกรรม
- จัดทำโปรแกรมฝึกอบรม (Bootcamp) แบบแยกส่วน (Modular) เพื่อพัฒนาทักษะแบบเจาะจง
ข้อเสนอ
- เร่งผลิต System Analyst และนักพัฒนาระบบให้เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม
- ปรับหลักสูตรให้เน้นวิชาที่จำเป็นต่อการสร้างทักษะตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เช่น ตรรกศาสตร์เบื้องต้น การเขียนโปรแกรม ผสมกับการจัดทำโปรแกรมฝึกอบรม (Bootcamp) หรือ Workshop แบบโมดูล เดือนละ 1 วิชา และเมื่อครบทุกวิชาตามกำหนด ส่งนักศึกษาเข้าทำงานกับภาคอุตสาหกรรม
:
4. อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ปัญหาแรงงานและทักษะ
- ยังขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะใหม่และทักษะเดิม
- นักศึกษาจบมาทำงานไม่ตรงสายงาน
- ผู้ประกอบการไม่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบหลักสูตรแบบเชิงรุก
ทักษะที่จำเป็น
- ทักษะเชิงเทคนิคเฉพาะด้าน เช่น ออกแบบแผงวงจร การฝังโปรแกรมเข้าไปในแผงวงจร
- Mindset การเรียนรู้และบูรณาการข้ามสายงาน
รูปแบบการพัฒนา
- ออกแบบหลักสูตรร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาและผู้ประกอบการ
- ต้องมีการเข้าไปเลือกคนที่ใช่เพื่อคัดเลือกคนที่มีทักษะความสามารถพิเศษ (Talent Skills) สามารถเข้ามาฝึกงานได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และเข้าทำงานต่อได้ทันที
ข้อเสนอ
- สถาบันการศึกษาควรสมดุลทิศทางระหว่างแนวคิดการเป็นเลิศทางวิชาการและการสร้างคน
- จัดสถานที่การศึกษาให้เป็นสถานที่การเรียนรู้
:
จากผลสำรวจทั้ง 4 อุตสาหกรรม สังเกตได้ว่าแต่ละอุตสาหกรรมมีการปรับตัวไปตามสถานการณ์โลก ส่งผลให้มีความต้องการแรงงานทักษะสูงเฉพาะด้าน เนื่องจากจะต้องมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยส่งเสริมและผลักดันธุรกิจในรูปแบบใหม่ให้ทันสมัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งผลสำรวจยังได้สะท้อนความต้องการของผู้ประกอบการและตลาดแรงงาน ที่เป็นไปตามแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจยุคดิจิทัล ดังนั้น แรงงานทักษะจึงจำเป็นต้องได้รับการผลักดันจากทุกภาคส่วนตั้งแต่สถานศึกษาที่จัดทำหลักสูตรเรียน ด้านองค์กรต้องสนับสนุนและส่งเสริมบุคลากรให้มีทักษะใหม่และพัฒนาทักษะเดิม ไปจนถึงภาครัฐที่ต้องพร้อมให้การสนับสนุนการเงินในการลงทุน เพื่อยกระดับสมรรถนะกำลังคนของประเทศ
:
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมหรือผู้ประกอบการ ที่สนใจข้อมูลหรือต้องการขอรับคำแนะนำด้านหลักสูตรอบรมภาคอุตสาหกรรม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ FTI Academy สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 1453 กด 12