วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนตุลาคม 2566 ว่าการผลิต จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนตุลาคม 2566 มีทั้งสิ้น 158,734 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 7.02 และลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 3.27 ลดลงจากการผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 3.57 เพราะฐานสูงในปีที่แล้ว และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงร้อยละ 11.65 จากการผลิตรถกระบะลดลงร้อยละ 27.44 ตามยอดขายรถกระบะที่ลดลงถึงร้อยละ 37.93 จากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน โดยจำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,544,705 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 0.65

การผลิต

จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนตุลาคม 2566 มีทั้งสิ้น 158,734 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 7.02 และลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 3.27 ลดลงจากการผลิตเพื่อส่งออกลดลงร้อยละ 3.57 เพราะฐานสูงในปีที่แล้ว และผลิตเพื่อขายในประเทศลดลงร้อยละ 11.65 จากการผลิตรถกระบะลดลงร้อยละ 27.44 ตามยอดขายรถกระบะที่ลดลงถึงร้อยละ 37.93 จากการเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,544,705 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 0.65

รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ 57,254 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 3.62 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 42,069 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 03
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 2 คัน ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันยังไม่มีการผลิต
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 548 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 27
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 14,635 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 78

ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 มีจำนวน 538,308 คัน เท่ากับร้อยละ 34.85 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 12.96 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่ง Internal Combustion Engine มีจำนวน 415,930 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 97
  • รถยนต์นั่ง Battery Electric Vehicle มีจำนวน 151 คัน ซึ่งช่วงเวลาเดียวกันยังไม่มีการผลิต
  • รถยนต์นั่ง Plug-in Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 8,024 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 24
  • รถยนต์นั่ง Hybrid Electric Vehicle มีจำนวน 114,203 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 30

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ 10 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 52.38 รวมเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ 108 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 208.57

รถยนต์บรรทุก เดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 101,470 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 8.82 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 1,006,289 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 4.90

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ทั้งหมด 97,702 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 9.54 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 975,544 คัน เท่ากับร้อยละ 63.15 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 4.69 โดยแบ่งเป็น

 

  • รถกระบะบรรทุก 172,172 คัน         ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 69
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 640,336 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 30
  • รถกระบะ PPV 163,036 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 09

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ 3,768 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 14.63 รวมเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ 30,745 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 11.32

ผลิตเพื่อส่งออก

เดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ 94,342 คัน เท่ากับร้อยละ 59.43 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 3.57 ส่วนเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 904,306 คัน เท่ากับร้อยละ 58.54 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.12

รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2566 ผลิตเพื่อการส่งออก 28,615 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 15.58 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 247,606 คัน เท่ากับร้อยละ 46 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 10.42

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 65,727 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 2.80 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 656,700 คัน เท่ากับร้อยละ 67.32 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 5.93 โดยแบ่งเป็น

  • รถกระบะบรรทุก 66,266 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 ร้อยละ 70
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 497,939 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 ร้อยละ 06
  • รถกระบะ PPV 92,495 คัน    เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 ร้อยละ 38

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

เดือนตุลาคม 2566 ผลิตได้ 64,392 คัน เท่ากับร้อยละ 40.57 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 11.65 และเดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ 640,399 คัน เท่ากับร้อยละ 41.46 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 7.26

รถยนต์นั่ง เดือนตุลาคม 2566 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 28,639 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 12.26% แต่ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ผลิตได้ 290,702 คัน เท่ากับร้อยละ 54 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.22

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนตุลาคม 2566 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 31,975 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 27.44 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ผลิตได้ทั้งสิ้น 318,844 คัน เท่ากับร้อยละ 32.68 ของยอดการผลิตรถกระบะ และลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 20.99 ซึ่งแบ่งเป็น

  • รถกระบะบรรทุก 105,906 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 ร้อยละ 04
  • รถกระบะดับเบิลแค็บ 142,397 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 ร้อยละ 36
  • รถกระบะ PPV 70,541 คัน             เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม-ตุลาคม 2565 ร้อยละ 41

รถจักรยานยนต์

เดือนตุลาคม 2566 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 172,644 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 20.57 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 140,114 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 18.37 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 32,530 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 28.84

ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,060,898 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 4.21 โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,778,165 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 8 แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 282,733 คัน ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 14.65

ยอดขาย

ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนตุลาคม 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 58,963 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 5.03 และลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 8.75 จากยอดขายรถกระบะที่ลดลงถึงร้อยละ 37.93 เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ รวมทั้งยอดขายรถพีพีวีลดลงร้อยละ 19.32 จากการออกรถรุ่นใหม่ของรถSUV หลายรุ่น รวมทั้งรถบรรทุกขายลดลงร้อยละ 14.48 จากเศรษฐกิจชะลอตัวด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ล่าช้าออกไปซึ่งกระทบการลงทุนของภาครัฐ และการส่งออกหลายสินค้ายังคงลดลงซึ่งกระทบอำนาจซื้อจากการลดเวลาการทำงานลง ยอดขายแบ่งตามประเภทเชื้อเพลิง ดังต่อไปนี้

  • รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) 42,317 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 77 ของยอดขาย ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 29.60
  • รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 7,394 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 12.54 ของยอดขาย เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วที่ร้อยละ 05
  • รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 79 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 13 ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 75.54
  • รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 9,173 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 56 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 212.22

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 134,978 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2565 ร้อยละ 4.58 และลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 0.72 โดยแบ่งเป็น

  • รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 134,978 คัน ลดลงจากปีที่แล้วร้อยละ 73

 

ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 รถยนต์มียอดขาย 645,833 คัน ลดลงจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 7.51 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์สันดาปภายใน (ICE) 518,438 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 27 ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 19.15
  • รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 56,119 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 69 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 702.39
  • รถยนต์ไฟฟ้าผสมแบบเสียบปลั๊ก (PHEV) 1,738 คัน มีสัดส่วนร้อยละ27 ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 13.66
  • รถยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 69,538 คัน มีสัดส่วนร้อยละ 77 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 44.67

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,581,316 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 5.66โดยแบ่งเป็น

  • รถจักรยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) 1,580,278 คัน มีสัดส่วนร้อยละ93 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 5.66
  • รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าผสม (HEV) 818 คัน มีสัดส่วนร้อยละ01 ลดลงจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 16.79
  • รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) 220 คัน มีสัดส่วนร้อยละ05 เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 100
การส่งออก

รถยนต์สำเร็จรูป

เดือนตุลาคม 2566 ส่งออกได้ 105,726 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วร้อยละ 8.46 และเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 12.20 จากการส่งออกรถกระบะและรถ PPV เพิ่มขึ้นตามยอดขายรถยนต์ในประเทศคู่ค้าที่เติบโต ดังนั้น จึงส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 103,614 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 11.10 ส่งออกรถยนต์ HEV 2,112 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 119.31 มูลค่าการส่งออก 72,481.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 17.33

  • เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 3,714.20 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 58
  • ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 17,850.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 54
  • อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,288.20 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 31

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนตุลาคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 96,333.92ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 13.44

 

เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 927,625 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 15.86 แยกเป็นรถยนต์สันดาปภายใน ICE 918,157 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 15.87 ส่งออกรถยนต์ HEV 9,468 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 14.60 มูลค่าการส่งออก 591,916.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 19.03 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 32,173.73 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 40
  • ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 154,850.95 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 11
  • อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 20,224.38 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 97

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 799,165.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 9.86

 

รถจักรยานยนต์

เดือนตุลาคม 2566 มีจำนวนส่งออก 68,136 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 ร้อยละ 11.48 และลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 25.10 โดยมีมูลค่า 5,627.71 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 24.04

  • ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 60 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 27.73
  • อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 53 ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 34.01

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนตุลาคม 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,001.84ล้านบาท ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 24.47

เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 669,887 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 21.48 มีมูลค่า 55,975.41 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 6.74

  • ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 2,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 31
  • อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,686.20 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ร้อยละ 93

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 60,184.62 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 6.56

 

เดือนตุลาคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่น ๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 102,335.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ10.20

เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 859,350.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 8.52

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV เดือนตุลาคม 2566

เดือนตุลาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 9,808 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 400.41 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 7,715 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 73
    • รถยนต์นั่งจำนวน 7,628  คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน               80   คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน      4   คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน      3   คัน
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 19 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 280
  • รถยนต์สามล้อรับจ้างมีทั้งสิ้น 31 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 50
    • รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน    30    คัน
    • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน      1   คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 1,967 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 34
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 1,967  คัน
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 66 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 01
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 10 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 33

 

เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน      77,737 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 409.98 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 57,933 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 34
    • รถยนต์นั่งจำนวน 57,637 คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน     273 คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน                 10 คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน       13 คัน
  • รถกระบะ รถแวนมีทั้งสิ้น 141 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 43
  • รถยนต์สามล้อมีทั้งสิ้น 296 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 09
    • รถยนต์รับจ้างสามล้อจำนวน    280  คัน
    • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลจำนวน      16  คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 17,902 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 62
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 17,850 คัน
    • รถจักรยานยนต์สาธารณะจำนวน                52 คัน
  • รถโดยสารมีทั้งสิ้น 1,211 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 33
  • รถบรรทุกมีทั้งสิ้น 254 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 3,075

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท HEV เดือนตุลาคม 2566

เดือนตุลาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,613 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 31.31 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 6,584 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 92
    • รถยนต์นั่งจำนวน           6,573 คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน       4 คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน                          7 คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 29 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 09
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน     29 คัน

เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (HEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  72,036 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม ตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 31.34 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 71,521 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 36
    • รถยนต์นั่งจำนวน                              71,425 คัน
    • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนจำนวน      14  คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน      21  คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน      61  คัน
  • รถจักรยานยนต์มีทั้งสิ้น 515 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 43
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลจำนวน     515 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท PHEV เดือนตุลาคม 2566

เดือนตุลาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่มีจำนวน 849 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 5.56 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 849 คัน ลดลงจากเดือนตุลาคม 2565 ร้อยละ 56
    • รถยนต์นั่งจำนวน             849 คัน 

เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 มียานยนต์ประเภทไฟฟ้า (PHEV) จดทะเบียนใหม่สะสมมีจำนวน  10,383 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคมปีที่แล้วร้อยละ 7.14 โดยแบ่งเป็น

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 10,383 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ตุลาคม 2565 ร้อยละ 14
    • รถยนต์นั่งจำนวน           10,373 คัน
    • รถยนต์บริการธุรกิจจำนวน       6 คัน
    • รถยนต์บริการทัศนาจรจำนวน                  4 คัน

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566

ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท BEV มีจำนวนทั้งสิ้น 109,488 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 312.74 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 71,571 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 46
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 70,939 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 44
  • รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คนมีจำนวน 451 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 14
  • รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 29 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 33
  • รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 27 คัน ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ยังไม่มีการจดทะเบียน
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 125 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 3,025
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 202 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 63
  • รถยนต์ 3 ล้อมีจำนวนทั้งสิ้น 770 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 80
  • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคลมีจำนวน 78 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 48
  • รถยนต์รับจ้างสามล้อมีจำนวน 692 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 11
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 34,248 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 69
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 34,126 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 06
  • รถจักรยานยนต์สาธารณะมีจำนวน 122 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 44
  • อื่นๆ
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2,416 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 29
  • รถบรรทุกมีจำนวนทั้งสิ้น 281 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 1,024

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566

ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท HEV มีจำนวนทั้งสิ้น 330,771 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 31.91 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 321,669 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 05
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 320,886 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 06
  • รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารฯ มีจำนวน 476 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 45
  • รถยนต์บริการธุรกิจ มีจำนวน 48 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 62
  • รถยนต์บริการทัศนาจร มีจำนวน 144 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 28
  • รถยนต์บริการให้เช่า มีจำนวน 3 คัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 33
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 113 เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 2,160
  • รถกระบะและรถแวนมีจำนวน 1 คัน เท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
  • รถจักรยานยนต์มีจำนวนทั้งสิ้น 9,099 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 33
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมีจำนวน 9,099 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 33
  • อื่นๆ
  • รถโดยสารมีจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565

ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566

ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ยานยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนสะสมประเภท PHEV มีจำนวนทั้งสิ้น 52,677 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 29.14 โดยแบ่งประเภทได้ ดังนี้

  • รถยนต์นั่งและรถประเภทต่างๆ มีทั้งสิ้น 52,677 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 14
  • รถยนต์นั่งมีจำนวน 52,609 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 17
  • รถยนต์บริการธุรกิจมีจำนวน 41 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 13
  • รถยนต์บริการทัศนาจรมีจำนวน 20 คัน ซึ่งเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันปี 2565
  • รถยนต์บริการให้เช่ามีจำนวน 3 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ร้อยละ 50
  • รถยนต์รับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มีจำนวน 4 ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันปี 2565 ไม่มีการจดทะเบียน