เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมด้วยนายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ ประธานคณะทำงาน Supply Chain Security และความมั่นคงทางด้าน Supply Chain สายงานส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรม หารือแนวทางการจัดการสินค้านำเข้าและสินค้าที่ไม่มีมาตรฐาน โดยมีผู้แทนกลุ่มอุตสาหกรรมเข้าร่วม 12 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มฯ เครื่องนุ่งห่ม กลุ่มฯ เครื่องสำอาง กลุ่มฯ เซรามิก กลุ่มฯ พลาสติก กลุ่มฯ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร กลุ่มฯ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มฯ ยาง กลุ่มฯ เยื่อและกระดาษ กลุ่มฯ รองเท้า กลุ่มฯ สิ่งทอ กลุ่มฯ หนังและผลิตภัณฑ์หนัง และกลุ่มฯ เหล็ก ณ ห้อง Passion 802 ชั้น 8 ส.อ.ท.
ที่ประชุมมีข้อเสนอต่อการจัดการสินค้านำเข้าและสินค้าที่ไม่มีมาตรฐาน 3 ประเด็น ดังนี้
1. ผลักดันมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ภาคบังคับร่วมกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อยกระดับมาตรฐานตามแผน Quick Win ของ สมอ. ที่มีนโยบายในการออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยปี 2566 สมอ. มีเป้าหมายออกมาตรฐานจำนวน 600 ฉบับ และปี 2567 มีเป้าหมายออกมาตรฐานบังคับไม่น้อยกว่า 1,000 ฉบับ ให้สอดคล้องกับปริมาณสินค้าในตลาด และการยกระดับสินค้า โดยคัดเลือกสินค้าจากมาตรฐานทั่วไปผลักดันให้เกิดเป็นมาตรฐานบังคับ
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ในฐานะองค์กรที่เป็นองค์กรกำหนดมาตรฐาน (STANDARDS DEVELOPING ORGANIZATIONS: SDO) ขั้นสูง ได้สนับสนุนให้กลุ่มอุตสาหกรรมใช้กลไก SDO ในการจัดทำร่าง มอก. โดยที่ประชุมให้การสนับสนุนแนวทางความร่วมมือเพื่อตรวจจับสินค้าไม่ได้มาตรฐาน และขอความอนุเคราะห์มายังผู้ประกอบการที่พบเห็นสินค้าไม่มี มอก. สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สมอ. เพื่อยกระดับและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมต่อไป
2. ผลักดันการทบทวนการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท และจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวข้อง อาทิ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ อีกทั้งเห็นควรให้มีการเข้มงวดและกำกับดูแลสินค้านำเข้าในทุกช่องทางผ่านพิธีการศุลกากรให้ถูกต้องตามกฎหมาย อาทิ การสำแดงสินค้าให้ถูกต้องตามประเภท การกำกับการนำเข้าสินค้าผ่าน Free Zone Warehouse
3. ผลักดันให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) บังคับใช้กฎหมายว่าด้วยเรื่องการแสดงฉลาก เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการแสดงฉลากในภาชนะบรรจุและสอดคล้องกับกฎหมาย ซึ่งข้อความที่ปรากฎในฉลากต้องตรงตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากกำหนด และมีสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า จากการตรวจสอบ พบว่า ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีสินค้าหลายประเภทแสดงฉลากอาหารไม่ถูกต้อง ไม่มีฉลากภาษาไทย และไม่มีเลขสารบบอาหาร จึงขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานภาครัฐ และผู้พบเห็นสินค้าที่ไม่แสดงฉลากหรือไม่มีฉลากภาษาไทยช่วยกันตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแส เพื่อให้ได้รับสินค้าที่ปลอดภัย รณรงค์ให้ผู้ประกอบการมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค